ทำไมผู้สูงอายุพูดไม่รู้เรื่อง ทำไมผู้สูงอายุมีอาการสับสน ทำไมเข้าโรงพยาบาลแล้วมีอาการเพ้อ รักษาอย่างไร
ภาวะสับสนเฉียบพลัน (Acute Confusional State หรือ Delirium) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยมักแสดงออกในรูปแบบของการเปลี่ยนแปลงในความสามารถในการรับรู้, ความจำ, และการสื่อสาร ซึ่งมีการแสดงอาการอย่างชัดเจนในระยะเวลาสั้นๆ โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในสิ่งแวดล้อมหรือการดูแลสุขภาพ เช่น การรักษาในโรงพยาบาล
ภาวะสับสนเฉียบพลันในผู้สูงอายุเป็นอาการที่ควรให้ความสนใจอย่างยิ่ง เพราะสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและนำไปสู่ผลกระทบที่รุนแรง หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที
ปัญหาหนึ่งที่พบได้ในผู้สูงอายุคืออาการ
- สับสนเวลา หลับกลางวัน ตื่นกลางคืน
- จำลูกหลานไม่ได้
- ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ไม่รู้ว่าตัวเองเจ็บป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล เรียกร้องจะกลับบ้านอย่างเดียว
- พูดแต่เรื่องเก่าๆ
การจะบรรเทาปัญหานี้ ต้องเริ่มจากหากสาเหตุ ว่าเป็นจากภาวะสับสนเฉียบพลัน (Delirium) หรือ อาการทางอารมณ์และพฤติกรรมของโรคสมองเสื่อม (BPSD)
ภาวะสับสนเฉียบพลัน Delirium | อาการทางอารมณ์และพฤติกรรมของโรคสมองเสื่อม BPSD (Behavioral and Psychological Symptoms of Dementia) | |
สาเหตุ | สิ่งกระตุ้นเฉียบพลัน เช่น การติดเชื้อ ได้รับยาชนิดใหม่ ภาวะขาดน้ำ หรือการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม | เป็นอาการหนึ่งของ อัลไซเมอร์ หรือภาวะสมองเสื่อมประเภทอื่น ๆ |
ระยะเวลา | เกิดขึ้นเฉียบพลันภายในไม่กี่ชั่วโมงถึงวัน | ค่อย ๆ พัฒนาและดำเนินต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ถึงเดือน |
ความผันผวนของอาการ | อาจดีขึ้นหรือแย่ลงในแต่ละช่วงของวัน (มักแย่ลงช่วงกลางคืน) | ผันผวนน้อยกว่า อาจมีช่วงที่เป็นเยอะหรือน้อย |
อาการเด่น | หลงลืม พูดจาวกวน เห็นภาพหลอน หวาดระแวง | มีอาการก้าวร้าว กระสับกระส่าย ซึมเศร้า วิตกกังวล หลงผิด หรือพฤติกรรมซ้ำ ๆ |
การตอบสนองต่อการรักษา | อาการดีขึ้นได้มาก เมื่อแก้ไขสาเหตุที่กระตุ้น เช่น การติดเชื้อ หรือภาวะขาดน้ำ | อาจบรรเทาอาการได้บ้าง มักต้องใช้วิธีการจัดการพฤติกรรม และใช้ยาช่วย |
สาเหตุของภาวะสับสนเฉียบพลัน
ภาวะสับสนเฉียบพลันในผู้สูงอายุสามารถเกิดจากหลายสาเหตุ รวมถึงความเจ็บป่วยต่างๆ ที่อาจกระทบต่อสมองและระบบประสาท นี่คือลิสต์ของสาเหตุที่พบบ่อย:
1. การติดเชื้อ (Infections)
การติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจหรือทางเดินปัสสาวะ เช่น ปอดบวม (Pneumonia) หรือการติดเชื้อทางปัสสาวะ (Urinary Tract Infection - UTI) อาจเป็นสาเหตุของภาวะสับสนในผู้สูงอายุ เนื่องจากร่างกายของผู้สูงอายุอาจไม่สามารถตอบสนองต่อการติดเชื้อได้ดีเท่าผู้ที่อายุน้อยกว่า
2. ภาวะสมดุลน้ำและเกลือแร่ผิดปกติ
การขาดน้ำ (Dehydration) หรือเกลือแร่ (Electrolyte Imbalance) เช่น โซเดียมหรือโพแทสเซียมไม่สมดุลอาจทำให้ผู้สูงอายุเกิดอาการสับสนได้
3. การใช้ยาหรือการเปลี่ยนแปลงยา
ยาบางประเภทที่มีผลข้างเคียง เช่น ยาเบาหวาน, ยาต้านซึมเศร้า, ยากล่อมประสาท หรือยานอนหลับ อาจทำให้เกิดภาวะสับสนในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะหากมีการเปลี่ยนแปลงในขนาดหรือประเภทของยา
4. โรคหัวใจและหลอดเลือด
โรคหัวใจ เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart Failure) หรือการขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง (Cerebral Ischemia) สามารถทำให้เกิดภาวะสับสนได้ เนื่องจากการลดลงของการไหลเวียนโลหิตไปยังสมอง
5. ภาวะโรคสมองเสื่อม (Dementia)
ผู้ที่มีภาวะโรคสมองเสื่อม เช่น อัลไซเมอร์ (Alzheimer's disease) หรือภาวะสมองเสื่อมจากหลอดเลือดสมอง (Vascular Dementia) อาจมีอาการสับสนเพิ่มขึ้นเมื่อมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น การติดเชื้อ หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม
6. ภาวะความเครียดหรือการเจ็บปวด
การเจ็บปวดจากการบาดเจ็บ หรือการเข้ารับการผ่าตัด อาจกระตุ้นให้ผู้สูงอายุเกิดภาวะสับสนได้ โดยเฉพาะหากไม่มีการดูแลที่เหมาะสมในการควบคุมอาการเจ็บปวด
7. ภาวะพร่องออกซิเจน
หากร่างกายไม่สามารถรับออกซิเจนไปเลี้ยงสมองอย่างเพียงพอ เช่น ในกรณีของโรคหอบหืด, โรคปอด, หรือการติดเชื้อทางเดินหายใจ ก็สามารถทำให้เกิดภาวะสับสนเฉียบพลันได้
การวินิจฉัยและการดูแลรักษา
การวินิจฉัยภาวะสับสนเฉียบพลันในผู้สูงอายุจะต้องอาศัยการตรวจสอบหลายด้าน รวมถึงการสังเกตพฤติกรรมของผู้ป่วย การซักประวัติทางการแพทย์ และการทดสอบทางการแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เช่น การตรวจเลือด, การตรวจปัสสาวะ, หรือการตรวจสมอง
การรักษาภาวะสับสนเฉียบพลันในผู้สูงอายุจะมุ่งไปที่การรักษาสาเหตุที่เป็นต้นเหตุ เช่น การให้ยาปฏิชีวนะในกรณีของการติดเชื้อ หรือการให้สารน้ำในกรณีของภาวะขาดน้ำ และการดูแลด้านจิตใจ เช่น การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและสงบสำหรับผู้ป่วย
การป้องกัน
การป้องกันภาวะสับสนเฉียบพลันในผู้สูงอายุสามารถทำได้โดยการดูแลรักษาสุขภาพให้ดี เช่น การควบคุมโรคประจำตัว, การทานอาหารและน้ำให้เพียงพอ, การหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่อาจมีผลข้างเคียงรุนแรง, และการลดปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้ผู้สูงอายุเจ็บป่วยได้
การให้การดูแลที่ดีและมีความเข้าใจต่อภาวะสับสนในผู้สูงอายุจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นตามมาได้
ภาวะสับสนเฉียบพลันในผู้สูงอายุเป็นภาวะที่ต้องให้ความสนใจ เนื่องจากสามารถเกิดจากหลายสาเหตุ และสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในชีวิตของผู้สูงอายุ การวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม รวมถึงการดูแลป้องกันอย่างต่อเนื่อง จะช่วยลดความเสี่ยงและช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เดอะซีเนียร์เป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลผู้สูงอายุเดอะซีเนียร์ ทำให้เราเข้าใจดีในเรื่องการดูแลผู้ป่วยสูงอายุ และผู้สูงอายุที่ต้องการความใส่ใจการดูแลครอบคลุมทุกด้าน ทั้งด้านการพยาบาล การฟื้นฟูร่างกาย ด้านอาหารและโภชนาการ โดยทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ดูแล กายภาพบำบัดวิชาชีพและนักโภชนาการ
The Senior Health Care โรงพยาบาลผู้สูงอายุ และศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู เราพร้อมดูแลผู้ป่วยที่มีภาวการณ์เจ็บป่วยเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็ง โรคไตระยะสุดท้าย โรคพาร์กินสัน ผู้ป่วยสมองเสื่อม หรือมีอาการอัลไซเมอร์ระยะสุดท้าย รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยระยะสุดท้าย ผู้ป่วยประคับประคอง โดยทีมแพทย์ นักกายภาพบำบัด และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแล ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ และพร้อมให้คำแนะนำปรึกษาครอบครัวของผู้ป่วย ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งทางร่างกายและจิตใจ
สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของโรงพยาบาลเดอะซีเนียร์ได้ที่
โทร : 090-885-2985, 094-498-1115
LINE OFFICIAL : @thesenior