การดูแลผู้ป่วยประคับประคอง หรือ Palliative Care เป็นการดูแลผู้ป่วยที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยมุ่งเน้นการบรรเทาอาการและเพิ่มคุณภาพชีวิตในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ การดูแลช่วงนี้ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับการรักษาทางกาย แต่ยังรวมถึงการดูแลด้านจิตใจ อารมณ์ และความสบายของผู้ป่วย
หลายครอบครัวอาจไม่เคยเผชิญสถานการณ์นี้มาก่อน ทำให้เกิดความกังวลและไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร บทความนี้ได้รวบรวม 10 สิ่งสำคัญที่ญาติต้องเตรียม เพื่อให้การดูแลเป็นไปอย่างราบรื่น พร้อมแนะนำการใช้บริการจากศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลผู้สูงอายุเดอะซีเนียร์( The Senior Nursing Home) ที่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระและเสริมการดูแลได้อย่างมืออาชีพ
1. ทำความเข้าใจโรคและระยะของผู้ป่วย
สิ่งแรกที่ควรทำคือทำความเข้าใจโรคและระยะของผู้ป่วยอย่างละเอียด เช่น โรคมะเร็งระยะสุดท้าย ภาวะหัวใจล้มเหลว หรือโรคระบบประสาทเสื่อม เพราะความเข้าใจเหล่านี้จะช่วยให้คุณคาดการณ์อาการและความต้องการของผู้ป่วยได้แม่นยำขึ้น เช่น อาการเจ็บปวด หายใจลำบาก หรือการรับประทานอาหารที่ลดลง
การมีข้อมูลชัดเจนจะทำให้คุณสื่อสารกับทีมแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถตัดสินใจเรื่องการรักษาได้ตรงจุด
2. เตรียมใจและยอมรับความเปลี่ยนแปลง
การดูแลผู้ป่วยประคับประคองไม่ใช่เพียงการดูแลร่างกาย แต่ยังต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์และจิตใจทั้งของผู้ป่วยและญาติ ความเจ็บป่วยอาจทำให้บุคลิกของผู้ป่วยเปลี่ยนไป หรือมีอารมณ์เศร้าและกังวล การเตรียมใจและยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมชาติ จะช่วยลดความเครียดของทั้งสองฝ่าย
3. จัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยและสะดวก
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ป่วยปลอดภัยและรู้สึกสบายมากขึ้น เช่น
🔹 ใช้เตียงปรับระดับเพื่อช่วยลดแรงของผู้ดูแล
🔹 ติดราวจับในห้องน้ำเพื่อป้องกันการล้ม
🔹 จัดเฟอร์นิเจอร์ให้มีพื้นที่เดินโล่ง
การจัดสิ่งแวดล้อมแบบนี้ไม่เพียงลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ แต่ยังทำให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวได้สะดวกและมีความเป็นอิสระมากขึ้น
4. เตรียมอุปกรณ์ทางการแพทย์
การมีอุปกรณ์พร้อมใช้งานจะทำให้การดูแลเป็นไปอย่างราบรื่น อุปกรณ์ที่มักจำเป็น ได้แก่
🔹 เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว
🔹 เครื่องดูดเสมหะ
🔹 เตียงไฟฟ้า
🔹 อุปกรณ์ให้อาหารทางสาย
🔹 เครื่องวัดความดัน
นอกจากนี้ควรเตรียมยาที่แพทย์สั่งไว้ให้พร้อมเสมอ เพื่อป้องกันปัญหาฉุกเฉิน
5.เรียนรู้การดูแลพื้นฐาน
ผู้ดูแลควรรู้วิธีการเช็ดตัว เปลี่ยนท่าผู้ป่วยเพื่อป้องกันแผลกดทับ การให้อาหารทางสาย และการดูแลสายสวนปัสสาวะ การเรียนรู้ทักษะเหล่านี้ช่วยให้ผู้ป่วยปลอดภัยและลดภาวะแทรกซ้อน ปัจจุบันมีหลักสูตรสั้นหรือวิดีโอสอนที่สามารถเรียนรู้ได้ง่าย
6.ดูแลด้านโภชนาการ
อาหารมีบทบาทสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย อาหารที่เหมาะสมควรย่อยง่าย ให้พลังงานเพียงพอ และมีสารอาหารครบถ้วน เช่น
🔹 อาหารบดละเอียด
🔹 อาหารเหลวที่ให้พลังงานสูง
🔹 อาหารเฉพาะโรค เช่น อาหารลดเกลือสำหรับผู้ป่วยโรคไต
หากผู้ป่วยรับประทานอาหารได้น้อย ควรปรึกษานักโภชนาการเพื่อปรับเมนูให้เหมาะสม
7.เตรียมเอกสารสำคัญ
การมีเอกสารพร้อมจะช่วยให้การเข้ารับการรักษาฉุกเฉินรวดเร็วขึ้น เอกสารที่ควรมี ได้แก่
🔹 บัตรประชาชนของผู้ป่วย
🔹 เวชระเบียนย้อนหลัง
🔹 ใบสั่งยา
🔹 เบอร์โทรศัพท์ติดต่อแพทย์ประจำตัว
🔹 เอกสารแสดงความประสงค์ด้านการรักษา (Advance Care Plan)
สิ่งเหล่านี้ควรเก็บไว้ในที่ที่เข้าถึงได้ง่าย
8.เตรียมกำลังใจให้ผู้ป่วย
กำลังใจมีพลังมากกว่าที่คิด การใช้เวลาอยู่กับผู้ป่วย การพูดคุยเรื่องดีๆ หรือแม้แต่การจับมือ ล้วนช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกอบอุ่นและไม่โดดเดี่ยว บางครั้งเพียงการนั่งอยู่ใกล้ๆ โดยไม่ต้องพูดอะไรก็เป็นการให้กำลังใจที่ดี
9.ดูแลจิตใจและสุขภาพของตนเอง
ผู้ดูแลต้องใช้พลังทางร่างกายและจิตใจอย่างมาก จึงควรแบ่งเวลาให้ตนเองได้พักผ่อน และไม่ลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากญาติหรือเพื่อน การดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรงจะทำให้คุณมีพลังดูแลผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง
10.พิจารณาทางเลือกจากศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยประคับประคอง
หากการดูแลที่บ้านเป็นเรื่องยาก ศูนย์ดูแลที่มีทีมแพทย์และพยาบาล 24 ชั่วโมง เช่น ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลผู้สูงอายุเดอะซีเนียร์(The Senior Nursing Home) จะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างมืออาชีพ ทั้งการดูแลทางการแพทย์ การจัดอาหาร การทำกายภาพ และการดูแลจิตใจ
ทำไมควรเลือกดูแลที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเดอะซีเนียร์ (The Senior Nursing Home)
🩵 การดูแลแบบ Palliative Care ด้วยมาตรฐานวิชาชีพ
🩵 ทีมแพทย์ พยาบาล และผู้ช่วยพยาบาลดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
🩵 การดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ ผ่านกิจกรรมบำบัดและการสื่อสารอย่างอบอุ่น
🩵 การดูแลเรื่องโภชนาการ ที่เป็นสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
🩵 สภาพแวดล้อมปลอดภัย เหมาะแก่การพักฟื้นและประคับประคอง
🩵 กายภาพบำบัดที่ร่วมกันกับการดูแล ในการบรรเทาและฟื้นฟูอาการเจ็บปวดและความไม่สุขสบายของผู้ป่วย
🩵 รายงานอาการต่อเนื่อง ให้ญาติรับทราบทุกความเปลี่ยนแปลง
การมาที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือโรงพยาบาลผู้สูงอายุเดอะซีเนียร์ช่วยให้ญาติสบายใจว่าคนที่รักจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุด พร้อมคุณภาพชีวิตที่เหมาะสมในทุกวัน
FAQ คำถามที่พบบ่อย
Q: การดูแลแบบประคับประคองต่างจากการรักษาทั่วไปอย่างไร?
A: Palliative Care มุ่งเน้นการบรรเทาอาการและคุณภาพชีวิต มากกว่าการรักษาให้หายขาด โดยให้การดูแลทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม
Q: ญาติสามารถเยี่ยมผู้ป่วยได้บ่อยแค่ไหน?
A: ขึ้นอยู่กับนโยบายของศูนย์ แต่ที่เดอะซีเนียร์เราออกแบบนโยบายให้ญาติสามารถเยี่ยมได้อย่างใกล้ชิดพร้อมรายงานอาการต่อเนื่องให้ญาติรับทราบทุกความเปลี่ยนแปลง
Q: ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายเท่าไรสำหรับการดูแลระยะยาว?
A: ค่าใช้จ่ายขึ้นกับชนิดห้องและระดับการดูแล แนะนำให้ติดต่อศูนย์เพื่อรับใบเสนอราคาและคำอธิบายค่าใช้จ่ายอย่างชัดเจน
เดอะซีเนียร์เป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลผู้สูงอายุเดอะซีเนียร์ ทำให้เราเข้าใจดีในเรื่องการดูแลผู้ป่วยสูงอายุ และผู้สูงอายุที่ต้องการความใส่ใจการดูแลครอบคลุมทุกด้าน ทั้งด้านการพยาบาล การฟื้นฟูร่างกาย ด้านอาหารและโภชนาการ โดยทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ดูแล กายภาพบำบัดวิชาชีพและนักโภชนาการ
The Senior Health Care โรงพยาบาลผู้สูงอายุ และศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู เราพร้อมดูแลผู้ป่วยที่มีภาวการณ์เจ็บป่วยเรื้อรัง ผู้ป่วยฟอกไต ผู้ป่วยโรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็ง โรคไตระยะสุดท้าย โรคพาร์กินสัน ผู้ป่วยสมองเสื่อม หรือมีอาการอัลไซเมอร์ระยะสุดท้าย รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยระยะสุดท้าย ผู้ป่วยประคับประคอง โดยทีมแพทย์ นักกายภาพบำบัด และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแล ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ และพร้อมให้คำแนะนำปรึกษาครอบครัวของผู้ป่วย ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งทางร่างกายและจิตใจ
หากคุณกำลังมองหาศูนย์ที่เข้าใจและตอบโจทย์การดูแลและวางแผนการดูแลแบบฉพาะบุคคล
ดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลผู้สูงอายุเดอะซีเนียร์ (The Senior Nursing Home)พร้อมดูแลด้วยหัวใจ
📞 โทร: 090-885-2985, 094-498-1115
📱 Line: @thesenior
🌐 เว็บไซต์: www.senior.co.th